Star Wars ภายใต้ดิสนีย์ที่ย่ำอยู่กับที่


หนึ่งในหนังยุค Pop Culture ที่คนชอบดูหนังทั้งจากเว็บหนังออนไลน์ สตรีมมิ่ง และสายหนังโรงรู้จักกันมากที่สุด หนึ่งในนั้นก้คงไม่พ้นแฟรนไชส์ Star Wars ที่ 6 ภาคแรกนั้นเรียกได้ว่าเป็นหนังแห่งยุค และแม้จะผ่านไปหลายสิบปีแล้วก็ยังเป็นที่นิยมและถูกนำมาสร้างภาคต่อขยายในรูปแบบอื่นๆมากมาย ทั้งนิยาย หนังสือการ์ตูนคอมมิค เกม ซีรี่ย์ แม้แต่ส่วนสนุกธีมปาร์คของตัวเองเลยก็มี ซึ่งถ้าใครอยากดูก็ไปหาดูได้ในเว็บหนังออนไลน์ทั่วๆไปเลย สำหรับฉบับภาพยนตร์ ซึ่งแค่ตัวหนังโรงก็มี 9 ภาคเข้าไปแล้ว และพูดถึงหนังทั้ง 9 ภาค สามภาคหลังดูจะได้รับกระแสลบและคำวิจารณ์ที่ไม่ดีเอาซะเลย ซึ่งก็เพราะหลายๆเรื่อง แต่จะมีอะไรบ้าง ลองมาดูกัน
อย่างแรกเลยคือการไม่เคารพต้นฉบับ เนื่องจากสตาร์วอร์ส เป็นแฟรนไชส์หนังที่มีมาอย่างยาวนาน ทำให้มี material และเรื่องเล่าความเป็นมาของตัวเองแบบละเอียดยิบ เสมือนเป็นความเป็นจริงในอีกโลกหนึ่งที่เป็นโลกสมมุติเลยก็ว่าได้ ซึ่งภาคที่ 7-9 แม้จะเป็นการเล่าเรื่องต่อเนื่องจาก 6 ภาคก่อนหน้า และมีการนำตัวละครและนักแสดงดั้งเดิมมาร่วมเล่น แต่ด้วยพล็อตและการเล่าเรื่อง มีอะไรหลายจุดที่ไม่สอดคล้องกับหนังต้นฉบับ ซึ่งถ้าไม่ใชแฟนคลับก็อาจจะไม่คิดอะไรมาก แต่อย่าลืมว่าแฟรนไชส์สตาร์วอร์สนั้นมีมายาวนานมาก และคนที่เป็นกลุ่มลูกค้าเกือบทั้งหมดก็คือคนที่เคยดูหนังมาก่อนจากเว็บหนังออนไลน์ และหลงรักผลงานไซไฟชุดนี้ ที่พวกเขาโตมาด้วยกันกับมัน การที่ทำหนังภาคต่อ แต่ไปเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆที่เคยเล่ามาและมันดีอยู่แล้ว จึงให้ผลเสียกับกระแสตอบรับที่ไม่ดีต่อตัวหนัง

เรื่องต่อมาคือความคาดหวังของแฟนๆ กับการที่จะได้รับชมสูตรสำเร็จของหนังที่พวกเขารัก ซึ่งในหนังสตาร์วอร์สฉบับหนังโรง นอกจากเป็นการต่อสู้กันระหว่างความดีกับความชั่ว ประชาธิปไตย อิสระภาพ และอำนาจนิยมกับเผด็จการทหารแล้ว ความแฟนตาซีของการต่อสู้กันด้วย Light Saber หรือดาบแสงเลเซอร์ที่เป็นไอคอนของแฟรนไชส์ชุดนี้ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แฟนๆต่างตั้งตารอจะได้ดู ถึงแม้จะดูจำเจหรือเป็นสูตรสำเร็จไปซักหน่อย แต่มันก็เป็นสูตรสำเร็จที่นิยามความเป็นตัวหนัง และทำให้คนจดจำภาพยนตร์ชุดนี้ได้ด้วยฉากต่อสู้ด้วยดาบเลเซอร์พร้อมด้วยเพลงแบ็คกราวน์มิวสิคที่ยิ่งใหญ่ แต่ไตรภาคใหม่ที่สร้างมาแทบจะไม่มีอะไรพวกนั้นเลย และกลายเป็นเหมือนหนังไซไฟแฟนตาซีทั่วไป ที่ใช้ธีมของสตาร์วอร์สเฉยๆ เล่นเอาบางคนไม่กลับไปดูซ้ำอีกเลย หรือไม่อยากจะจดจำว่ามันเป็นภาคต่อของหนังที่พวกเขารักก็มี

ประเด็นใหญ่เรื่องสุดท้าย ที่ถึงแม้ทุกวันนี้จะมีเว็บหนังออกไลน์และสตีมต่างๆให้ไปดูซ้ำได้แบบไม่เสียเงินเยอะ แต่ก็ทำให้หนังน่าเบื่ออยู่ดีก็คือการที่ผู้สร้างยังคงวงอยู่กับอะไรเดิมๆมากจนเกินไป และดันเลือกอะไรเดิมๆที่ไม่ใช่ของที่น่าทำซ้ำ แต่กลับทิ้งสิ่งดีๆออกไปแทน อะไรเดิมๆที่พูดถึงก็คือตัวร้าย หรือบอสใหญ่ของไตรภาคล่าสุด ที่ดึงตัวร้ายที่ควรจะตายไปแล้ว (และจริงๆก็จากไปอย่างสมศักดิ์ศรีของตัวละครแล้ว) กลับมาอีกครั้ง แถมยังไม่มีการปูพื้นฐานใดๆใน 2 ภาคแรก แต่อยู่ๆก็ให้กลับมาในภาคที่ 3 เลย เหมือนว่าอยู่ๆก็คิดบทไม่ออก และหยิบตัวละครเก่ามาใช้ และยังไม่นับความไม่สมเหตุสมผลอื่นๆ และศัตรูหน้าเดิมๆ ที่เป็นการต่อสู้ระหว่างจักรวรรดิ และสาธารณรัฐที่สู้ไม่ไหวและต้องกลายมาเป็นกบฏหรือกลุ่มต่อต้าน (อีกแล้ว)


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *